เกี่ยวกับเรา
T : 085-1240950
line id : 085-1240950
email : tiggerairgun@hotmail.com
ปืนอัดลมแต่ละชนิด
ก่อนที่จะเสียเงินซื้อปืนลมมายิ่งเล่นกัน ลองมาทำความเข้าใจกันสักนิดว่าปืนลมแต่ละชนิดมีการทำ
งานกันอย่างไรและมีข้อดีและข้อด้อยอย่างไรบ้าง เมื่อจบแล้วค่อยมาดูกันอีกครั้งครับว่าปืนลมชนิด
ไหนจะตรงตามความต้องการหรือสนองความอยากของท่านได้ดีที่สุด
ตามที่ชื่อของมันก็บอกอยู่แล้ว ปืนลมใช้แรงดันของอากาศหรือแรงลมเป็นตัวขับดันให้กระสุนเคลื่อน
ไปข้างหน้า ถ้าเราจะแบ่งชนิดของปืนลมตามวิธีการสร้างแรงดันอากาศ เราก็คงสามารถแบ่งปืนลม
ออกได้เป็น 3 ชนิดคือ
1.ปืนลมสปริง
2.ปืน CO2 (คาร์บอนได้อ็อกไซด์)
3.ปืนลมอัดอากาศ
1.ปืนสปริง
ปืนลมที่เห็นกันจนคุ้นตาที่สุด ก็คงจะเป็นปืนสปริงนี่ละครับ เมื่อพูดถึงปืนลมคนส่วน
ใหญ่ก็คงจะนึกถึงภาพปืนสปริงก่อน ในบรรดาปืนลมทั้งหมดปืนสปริงเป็นปืนที่ใช้งานสะดวกและดู
แลง่ายที่สุด หลักการทำงานของปืนสปริงก็ง่ายครับ ก่อนที่จะยิงได้ผู้ยิงจะต้องออกแรงซะก่อนโดยการ
ดันให้สปริงและลูกสูบถอยหลังไปจนเซียร์ล็อคเข้ากับก้านของลูกสูบ เมื่อผู้ยิงเหนี่ยวไกไปปลดเซียร์
ลูกสูบก็เป็นอิสระ สปริงที่ถูกอัดไว้ในตอนแรกก็จะดีดตัวกลับดันให้ลูกสูบเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวด
เร็ว การเคลื่อนที่ของลูกสูบนี้ก็จะอัดอากาศที่อยู่ในกระบอกสูบทั้งหมดให้ไปดันกระสุนที่อยู่ปลายด้าน
หนึ่งของกระบอกสูบ และเป็นตอนท้ายของลำกล้องด้วย ซึ่งก็จะทำให้กระสุนเคลื่อนที่ไปตามลำกล้อง
อย่างรวดเร็ว พูดง่ายๆ ว่าก็ใช้แรงคนยิงนี่ละครับเป็นตัวขับเคลื่อนกระสุนออกไป
ปืนลมสปริงยังมีความแตกต่างกันออกไปตามวิธีของการขึ้นลำกล้องอีกด้วย ถ้าจะแบ่งประเภทใหญ่ๆ
ก็คงจะได้ 3 ประเภทคือ
1. หักลำกล้อง (Barrel Cocking)
2. คันง้างด้านข้าง (Side Cocking)
3. คันง้างใต้ลำกล้อง (Under-lever Cocking)
2.ปืนลมอัดอากาศ
ปืนอัดอากาศแตกต่างจากปืนสปริงโดยพื้นฐานพลังงานที่ใช้ขับดันกระสุน ในปืนสปริงนั้นการอัด
อากาศนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เราเหนี่ยวไกยิง ทำให้สปริงดันลูกสูบเพื่ออัดอากาศในกระบอกสูบ แต่ใน
ปืนอัดอากาศนั้นขั้นตอนนี้เกิดขึ้นก่อนล่วงหน้า โดยทำการอัดอากาศให้มีแรงดันสูงแล้วเก็บไว้ในถังเก็บ
เมื่อเหนี่ยวไกยิงนั้นก็เพียงแต่ไปเปิดวาล์วให้อากาศแรงดันสูงออกมาดันกระสุนไปข้างหน้า และด้วย
การทำงานในลักษณะนี้เองที่ทำให้ปืนอัดอากาศมีข้อเหนือปืนสปริงในด้านที่มันไม่มีแรงสั่นสะเทือน
มากนักในขณะที่เหนี่ยวไก
จากวิถีการอัดอากาศให้มีแรงดันเราก็ยังสามารถแบ่งปืนอัดอากาศได้อีกสามชนิดครับ
1. ปืนอัดอากาศชนิดปั๊มหลายครั้ง (Multi Pump) ปืนอัดอากาศชนิดนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากที่
สุดในหมู่นักเลงปืนลมรุ่นเยาว์ ปืนชนิดนี้เราจะสามารถใช้คันง้างอัดอากาศเข้าถังเก็บได้ตั้งแต่สองถึงสิบ
ครั้งแล้วแต่ว่าต้องการความแรงระดับไหน ส่วนใหญ่จะน้ำหนักเบาขนาดกระทัดรัด
2. ปืนลมอัดอากาศชนิดปั๊มครั้งเดียว (Single Pump) ปืนลมชนิดนี้ไม่เน้นความแรงแต่จะให้ความเร็ว
กระสุนที่ค่อนข้างคงที่จึงทำให้มีความแม่นยำเหนือกว่าพรรคพวกที่เป็นแบบ Multi Pump อยู่หลายขุม
2. ปืนอากาศอัด (PCP) ขอ เรียกปืนชนิดนี้ว่าปืนอากาศอัด ปืนชนิดนี้ไม่มีกลไกเพื่ออัดหรือเพิ่มแรงดันอากาศอยู่ในตัวปืนแต่จะมีถัง สำหรับเก็บอากาศแรงดันสูง ติดอยู่กับตัวปืนทำให้สามารถใช้อากาศนั้นมาขับ กระสุนได้หลายๆนัด ด้วยความที่ปืนPCP พึ่งจะได้รับความนิยมมาไม่นานทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าปืนชนิดนี้พึ่งจะเกิด ขึ้น
แต่ที่แท้จริงแล้วปืนชนิดนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ เกือบสี่ร้อยปีที่แล้ว! และมันไม่ใช่เป็นเพียงของเล่น มีหลัก
ฐานยืนยันได้ว่าทหารแม่นปืนชาวออสเตรียใช้ปืนชนิดนี้ซุ่มยิงทหารในกองทัพนโปเลียนที่เข้ามารุกราน
ปืน CO2
ปืนลมที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นแรงขับเคลื่อนกระสุนนั้นเกิดขึ้นมาได้ประมาณ100 ปีมานี่เอง
นับว่าอายุน้อยมากเมื่อเทียบกับปืนลมสปริงหรือปืนอากาศอัด ปืนชนิดนี้ค่อนข้างน่าสนใจในแง่ที่ว่าปืน
CO2 นี้มีตั้งแตปืนยิงเล่นราคาไม่กี่ร้อยไปจนถึงปืนแข่งขันราคากว่าครึ่งแสน
การที่ก๊าซCO2 ถูกนำมาใช้ในงานนี้ก็เนื่องมาจากที่มันมีราคาถูก, ไม่ไวไฟ, ไม่มีกลิ่น และยังเปลี่ยน
สถานะเป็นของเหลวที่ความดันไม่สูงนักซึ่งก็ทำให้สามารถบรรจุให้ยิงได้มากๆนัดต่อการเติมหนึ่งครั้ง
โดยที่ความดันไม่สูงเกินไป
ปืนCO2 มีข้อเด่นที่มันไม่ต้องใช้แรงในการเตรียมยิงเหมือนปืนสปริงหรือปืนปั้มและยังไม่มีแรงรี
คอลย์ มันจึงค่อนข้างที่จะเหมาะที่จะเป็นปืนสำหรับสอนเด็กให้ยิงปืน
ปืนลม CO2ราคาถูกซึ่งแพร่หลายอย่างมากในอเมริกามักจะใช้ถัง CO2 ซึ่งเป็นถังโลหะขนาด 12กรัม
แบบใช้แล้วทิ้ง ถังหนึ่งก็สามารถทำให้ยิงได้ร่วมร้อยนัด แต่ถัง CO2 แบบนี้ในบ้านเราราคาแพงและไม่
เป็นที่นิยมในเมืองไทย
....บทความนี้คัดลอกมาจาก http://www.thailandoutdoor.com/Airgun/airgun.html